10 อันดับเกมส์ที่มีฉากตอนจบได้ห่วย
เคยเจอกันไหมทั้งๆที่เราอุตส่าห์ตั้งตานั่งเล่นเกมมา หลายชั่วโมงและหวังว่าจะได้ เห็นบทสรุปที่ตอบคำถามให้เราทุกอย่างที่เราตั้งขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่พอเล่นมาถึงตอนสุดท้ายกลับทิ้งคำถามให้เราเพิ่ม ไม่งั้นก็ตัดจบไปดื้อๆเสียนี่ เชื่อกันว่าหล่ายคนคงต้องเคยเจอกันมาบ้างล่ะ ในวันนี้ทาง Juropy ก็เลยนำรายชื่อเกมที่แย่ที่สุดจากเสียงโหวตในเว็บไซต์ Watchmojo มาบอกเล่ากัน มีเกมอะไรบ้างนั้น ไปดู
คำเตือน เนื้อหาบทความนี้มีการสปอยและพูดถึงฉากที่สำคัญภายในเกม
อันดับที่ 10 : Super Mario Sunshine
ซีรีย์ลุงหนวดซ่อมท่อประปาที่ว่ากันว่าแทบจะไม่เคยตกต่ำกับเขาเลย แต่ว่า Super Mario Sunshine นั้นกลับมีตอนจบที่แย่ที่สุดในซีรีย์ ภาคนี้เป็นตัวอย่างที่ดีครับว่าทำไมซีรีย์ Mario ถึงไม่ควรจะใส่ความลุ่มลึกของตัวละครมากเกินไปในซีรีย์ อุตส่าห์นั่งเล่นมาตั้งนานแต่ต้องมาเจอกับฉากการ์ตูนคลาสสิคญี่ปุ่นอย่างยืน โรแมนติกดูดวงตะวันลับขอบฟ้าและต้องทนฟังเสียงพากย์อันปวดตับอาทิเสียงปืน ฉีดน้ำพูดกับมาริโอ้ก่อนตายกับตอนดอนบาวเซอร์สารภาพความจริง มันเป็นอะไรที่รำคาญหูและไม่คุ้มค่ากับการนั่งเล่นสิ้นดีเลยให้ตายเถอะ
อันดับที่ 9 : Resistance 2
หลายๆคนคงอาจจะไม่เคยได้ยินแต่ถ้าใครที่เป็นสาวกคอนโซล PlayStation นั้นก็น่าจะได้ยินกันบ้างกับซีรีย์ Resistance นับว่าเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งบน PS3 ที่สนุกที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว โดยในภาคสองนี้เราจะได้เล่นเป็น Nathan Hale ต่อสู้กับกองทัพเอเลี่ยนภายนอกและเชื้อเอเลี่ยนที่อยู่ในตัวของเขา ซึ่งเขาก็จะต้องหายามารักษาตามสูตร สิ่งที่ทำให้ตอนจบของเกมนี้แย่นั้นก็คือ แม้ว่าตัวเอกของเราจะต่อสู้และหายารักษามาทั้งเกม แต่สุดท้ายก็ถูกควบคุมโดยเอเลี่ยน และพูดอะไรบางอย่างที่พิลึกพิลั่นจนโดนเป่าสมอง ทีนี้ถ้ามีฉากอะไรเผยแง้มๆเกี่ยวกับภาคต่อออกมาหน่อยๆก็คงจะดีแต่นี่กลับใช้ วิธีคลาสสิคคือ ‘การตัดฉากด้วยจอดำ’ ทำให้ไมน่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้อันดับ 9ไปกิน
อันดับที่ 8 : Half-life 2 Episode 2
ถึงจะเป็นซีรีย์เกมยิงที่ดีที่สุดตลอดกาลก็ใช่ว่าจะไม่มีส่วนแย่แม้ว่า Half-Life 2 และ Episode 1 จะทำตอบจบแบบค้างคา แต่ก็น่าติดตามว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ต่างกับ Episode 2 ที่จบได้แบบหมดมุขมาก คิดไม่ออกก็จับพ่อออเล็กซ์มาเจาะกระโหลกซะ จบแบบง่ายดายและไม่น่าติดตามเท่ากับสองภาคก่อน ทีนี้ถ้าเกิดว่ามี Episode 3 ตามมาตามที่เคยประกาศไว้ว่าจะมี 3 Episode และจบตำนาน Half-Life 2 ได้อย่างสมบูรณ์ก็คงจะไม่ติดอันดับนี้หรอกครับ แต่นี่มันก็เจ็ดปีเข้าให้แล้วจะรอให้ผมมีหลานก่อนหรือไงเฮีย Gabe
อันดับที่ 7 : Borderlands
ในขณะที่เกมอื่นๆมีตอนจบที่น่าผิดหวังและค้างคา ทิ้งคำถามให้กับเราเต็มไปหมด สุดยอดเกมยิงผสม RPG อย่าง Borderlands กลับเลือกที่จะให้ตอนจบแบบช็อคปนหมดกำลังใจที่จะเล่นต่อแทน ใช่ การมีตอนจบแบบพลิกบทเป็นเรื่องที่ดีเสริมสร้างความแปลกใจปนกับความประทับใจ แต่ถ้ามาแบบนี้ก็มีท้อเหมือนกัน ตัวเราและเพื่อนๆอุตส่าห์ร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคบนดาว Pandora ผ่านสภาพแวดล้อมต่างดาวสุดงามเป็นสิบๆชั่วโมง ร่วมรบไปด้วยกันมาตั้งนานเพียงเพื่อค้นหาทรัพสมบัติในดาวแพนโดร่า แต่แล้วสิ่งที่เราได้เจอนั้นกลับเป็นเอเลี่ยนขนาดยักษ์ ใช่แล้วครับ มันไม่มีทรัพย์ล้ำค่าบ้าบออะไรนั่นหรอก มีแต่เอเลี่ยนยักษ์ที่ถูกผนึกเอาไว้เท่านั้นเอง ยัยปริศนาที่ใบ้เราตลอดทางมันก็รู้แต่กลับไม่บอกเราเล้ย ใครมันเขียนตอนจบให้กับเกมนี้เนี่ย
อันดับที่ 6 : Bioshock
เป็นอีกหนึ่งเกมส์ผีที่ดีที่สุดที่มีตอนจบที่เรียกได้ว่าห่วยแตกที่สุดไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกมอะไร Bioshock นั่นเอง แม้ว่า Bioshock จะมีบทพลิกกลับตารปัตรได้ดีมากจนแทบจะพลิกตามไม่ทันประหนึ่งที่เจอใน System Shock 2 แต่หลังจากที่เราหวดวงสวิงใส่ Andrew Ryan ไปแล้ว ถ้าจบตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะไม่ติดอันดับนี้ และคงจะไปติดอันดับเกมที่มีจุดจบที่ดีที่สุดตลอดกาลแทน ไม่ครับไม่ Ken Levine ไม่เอาด้วย กลับเพิ่มฉากจบสุดท้ายขึ้นมาและเป็นฉากที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย การต่อสู้กับบอสสุดท้ายแสนธรรมดาที่แค่ยิง ยิง ยิงก็ชนะได้ อาจจะต้องใช้การหลบหลีกนิดนึงแต่ถ้าเล่นเกม FPS บ่อยคงไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย นับว่าเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของเกมเลยล่ะครับ ตัดออกฉากนี้ได้นี่เราจะได้เกมยิงที่เพอร์เฟคทุกอย่างเลยล่ะ
อันดับที่ 5 : Ghostbuster (1984)
ความจริงแล้วมีเกมยุคเก่าดักแก่ผู้อ่านมากมายที่จุดจบแสนจะธรรมดามากมาย หลายเกม แต่ในที่สุดก็ได้ข้อตัดสินว่าเกมใดคู่ควรกับสิบอันดับนี้ ตอนจบยอดแย่ที่ว่านั้นตกเป็นของ Ghostbuster เกมส์ผีนี้นี่เอง แม้ว่า Ghostbuster นับว่าเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งในยุคนั้น แต่ว่าทีม Ghostbuster ทำงานปราบผีไม่ใช่ไล่กระทืบอาชญากร และตอนจบนั้นกลับบอกเราว่าเราเล่นเกมที่ดีที่สุดจบแล้ว และพิสูจน์ให้เห็นถึงความยุติธรรมได้สำเร็จ ถามจริง? จับผีเนี่ยนะ? แล้วมั่นใจขนาดนั้นเลยรึ? มีการบอกให้ไปพักด้วยนะ แหม่
อันดับที่ 4 : Halo 2
เข้าใจว่านี่เป็นส่วนกลางของ Halo Trilogy แต่ว่าถ้าคุณหาเวลาว่างๆ นั่งสัมผัสการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ของ Master Chief และคาดหวังบทสรุปสุดอลังแล้วล่ะก็ รีบเอาเกมนี้ไปวางเก็บไว้ที่หิ้งเหมือนเดิมเลยครับ เพราะแทนที่เกมนี้จะเสนอตอนจบสุดอลังและเป็นตัวเชื่อมไปยังจุดเริ่มต้นของ เหตุการณ์ในภาคต่อๆไป ตัวเกมกลับใช้มุขคลาสสิค ‘จอดำ’ เช่นเดิม แถมตอนท้ายก็ดูแปลกๆไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันนะว่างบหมดหรือนึกมุขอื่นไม่ออกตอนจบเลยเป็นแบบนั้น
อันดับที่ 3 : Star Wars Knights of the Old Republic II – The Sith Lords
หนึ่งในเกมส์ต่อสู้แนว RPG ตระกูล Star War ที่ดีที่สุดตลอดกาลก็จุดจบที่แย่กับเขาเหมือนกัน แม้ว่าคุณจะใช้เวลาหมดไปกว่าห้าสิบชั่วโมงเล่นเป็นฝั่งใด พัฒนาความสัมพันธ์หรือเลือกตัวเลือกอะไรก็ตามตอนที่กำลังเล่น ยังไงตอนสุดท้ายเราก็ต้องเผอิญหน้ากับ Treya ดู Traya ตาย และมีสองตัวเลือกคือไม่หนีก็เป็นราชา Sith ในดาวนั้น ซึ่งผู้เล่นจะไม่มีวันได้รู้เลยว่า ทำไมเธอถึงกลายมาเป็นราชาแห่ง Sith หรือทำไมเราถึงตัดสินใจระเบิดดาวทิ้ง ถามหน่อยเถอะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย
อันดับที่ 2 : Mass Effect 3
อีกหนึ่งซีรี่ย์ RPG ดีๆที่มาตายเพราะฉากจบอีกแล้วครับท่าน เพราะไม่ว่าคุณจะนั่งเล่นมากี่ร้อยชั่วโมงผ่านสามภาคนี้ และนั่งเลือกตัวเลือกแต่ละครั้งอย่างระวัง สุดท้ายทุกอย่างก็จะถูกสรุปในฉากจบ 2 นาทีผ่าน 3 ฉากจบที่มีในเกม ถึงงั้นก็เถอะ หลากคำถามที่เรามีก็ยังคงไร้คำตอบต่อไป เกิดอะไรขึ้นกับลูกเรือยานนอร์มังดี , ทำไม Mass Relay ถึงถูกทำลาย แล้วตกลง Garrus รวบรวมสแตมป์ได้ครบหรือเปล่า เรามีสิทธิ์ที่จะรู้สิ Bioware… เรามีสิทธิ์ที่จะรู้!
อันดับที่ 1 : Ghost And Goblin
ถ้าว่าเกม Borderlands ว่าช็อคและชวนท้อแล้วนั้นคุณคิดผิดครับต้องเจอกับเกมส์ผีนี้ครับ ดักแก่กันนิดหน่อย หลังจากที่ผู้เล่นฝ่าฟันมาจนถึงด่านสุดท้ายได้แล้วและปราบบอสสุดท้ายได้ สำเร็จ ตัวเกมจะบอกว่าทั้งหมดที่เราเจอมาเป็นแค่ภาพลวงตา และผู้เล่นจะต้องเล่นใหม่ทั้งเกมอีกรอบครับ! สิ่งที่ทำให้รู้สึกทรมานเลยก็คือเกมเก่าๆมักไม่มีเซฟ และเกมนี้ก็คือหนึ่งในนั้น เอาง่ายๆ ใครก็ตามที่นั่งเล่นและได้เห็นตอนจบของเกมนี้ คุณคือเกมเมอร์รุ่นเก๋าของจริงครับ
ที่มา : http://thgamerons.blogspot.com/
